นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้ดำเนินการการพัฒนาผู้ประกอบการ และสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจทุกระดับ โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ที่มีบทบาทในการตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนขั้นพื้นฐาน ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจึงถือเป็นหัวใจของระบบเศรษฐกิจภูมิภาคช่วยขยายตลาดทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือสินค้าเกษตรในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานความร่วมมือกับ 13 หน่วยงานพันธมิตร จัดงานสัมมนา “ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย” ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมยกระดับการพัฒนาเป็นสมาร์ทโชห่วย ซึ่งครอบคลุมหลายมิติ เช่น การปรับภาพลักษณ์ร้านค้าโชห่วยให้ทันสมัยแต่คงความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น การส่งเสริมให้โชห่วยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการและการตลาด ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากเครือข่ายพันธมิตรสมาร์ทโชห่วย”
สำหรับกิจกรรมการสัมมนาฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ (1) การให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในประเด็นจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ เช่น บัญชี/ภาษี การบริหารจัดการ และเทคโนโลยีสำหรับร้านค้า (2) การเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ เช่น สินค้าราคาพิเศษจากร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่น ผู้ผลิต/ผู้แทนจำหน่าย บริการเสริมที่ช่วยเพิ่มรายได้และสร้างจุดแข็งให้ร้านโชห่วย เช่น ตู้เติมเงิน ตู้ให้บริการแบบหยอดเหรียญ ผู้ให้บริการระบบ และสถาบันการเงินที่เสนอแหล่งเงินทุนตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายย่อย
ปี 2565 กำหนดจัดงานสัมมนาฯ 12 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้) ดังนี้ เดือนมีนาคม 3 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี กรุงเทพ และระยอง เดือนพฤษภาคม 4 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดยโสธร กาญจนบุรี นครสวรรค์ และลำพูน และเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 5 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต นครราชสีมา ลำปาง อุดรธานี และตรัง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายในการพัฒนาสมาร์ทโชห่วย ทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 3,000 ราย และคาดว่าผู้ประกอบการสมาร์ทโชห่วยจะมีมูลค่าการขายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง